วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

การออกแบบที่ดินและน้ำสำหรับนานอกเขตชลประทาน โดย ชาวนาวันหยุด

การออกแบบที่ดินและระบบน้ำวนในแปลงนา
(ช่วงนาปรังใช้น้ำบาดาล)
แปลงนาลุงมี  ต.เขาดิน อ.เก้าเลี้ยว จ.นครสวรรค์


หลักการ :ออกแบบระบบน้ำในเเปลงนาลุงมี1.ต้องพึ่งพาตัวเองได้ในเรื่องน้ำ  
2.มีพื้นที่การเก็บน้ำ จากน้ำฝนเพียงพอสำหรับการปลูกข้าว 
3.ฤดูอื่นอาจต้องสูบน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ น้ำบาดาลต้องมีต้องมีการพัก และเพิ่มธาตุอาหาร ก่อนปล่อยลงนา 
4.ลดการใช้พลังงานในสูบน้ำ ใช้หลักการความชันในการสร้างระบบน้ำวน
5.มีการหมุนเวียนของระบบน้ำในเเปลงนา
6.คันนา มีไม้ใหญ่เป็นแนวกันลม รักษาความชื้น และช่วยเพิ่มปุ๋ยตามธรรมชาติด้วยการปลูกพืชช่วยเพิ่มธาตุอาหารที่คันนา อันได้แก่ ทองหลาง (จามจุรีก็เป็นที่นิยมมาก)
การออกแบบที่ดินและน้ำสำหรับนาขั้นบันได 
โดยคุณชำนาญ ศรีทองสุข อ.พยุหคีรี จ.นครสวรรค์ 

โดยการขุดเหมืองน้ำเพื่อรับและกักเก็บน้ำ เวลาใช้น้ำทำโดยดึงน้ำขึ้นไปปล่อยจากแปลงบนก่อนและปล่อยลงสู่แปลงล่างตามลำดับขั้นบันได  ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องน้ำกับแปลงใกล้เคียง นอกจากในเหมืองยังสามารถใช้ประโยชน์ในการเลี้ยงปลา 




การออกแบบที่ดินและการให้น้ำด้วยสปริงเกอร์สำหรับการทำนาปรัง
โดย คุณมีชัย ว่องกิจ อ.ปง จ.พะเยา











1. ขุดบ่อกักเก็บน้ำ
2. ส่งน้ำเข้าแปลงนาขั้นแรกด้วยระบบท่อเข้าบ่อขนาดเล็ก
3. ในช่วงแรกทำการสูบน้ำให้เต็มพื้นที่ หลังจากนั้น
3. สูบน้ำจากบ่อเล็กทำการฉีดพ่นด้วยระบบสปิงเกอร์
4. ทำการรดน้ำโดยให้น้ำในช่วงอากาศไม่ร้อน เลี้ยงหน้าดินไม่ให้แห้ง จะต้องให้มีความชุมชื้นตลอดเวลา

การให้น้ำด้วยระบบสปิงเกอร์ช่วยประหยัดค่าพลังงานและค่าน้ำ เนื่องจากมีการสูญเสียน้ำไปนอกพื้นที่น้อย  






จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง

จาก https://www.facebook.com/thaipsb?sk=notes
25 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 23:08 น.
จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงคือจุลินทรีย์ที่พบได้ในแหล่งน้ำทั่วๆไป เช่น ไร่ นา ห้วย หนอง คลอง บึง แม่น้ำ ทะเล   เป็นจุลินทรีย์ท้องถิ่นที่มีประสิทธิภาพสูงในการสนับสนุนการเจริญเติบโตของพืชและสัตว์ ช่วยลดปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคในพืชและสัตว์

ประโยชน์การใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
  • ช่วยลดก๊าซไฮโดรซัลไฟด์ (H2S) ในดินช่วยให้รากของพืชขยายได้ดีและท าให้พืชกินปุ๋ยได้ดีขึ น 
  • ช่วยลดต้นทุนการใช้ปุ๋ยเคมีหรือปุ๋ยหลักลง 50 % 
  • ช่วยให้ผลิตเพิ่มขึ นอย่างน้อย 30 % เนื่องจากพืชมีความสามารถในการดูดกินปุ๋ยได้ดีขึ น 
  • ช่วยให้พืชมีความแข็งแรงและต้านทานโรคได้ดี 
  • เซลล์ของจุลินทรีย์สังเคราะห์แสงจะประกอบด้วยโปรตีนประมาณร้อยละ 60 ซึ่งโปรตีนเหล่านี ประกอบด้วยกรดอะมิโนที่จ าเป็นครบถ้วน และยังมีวิตามินและแร่ธาตุ เช่น B1 B2 B6 B12 กรดโฟลิค วิตามินซี วิตามินดี วิตามินอี รงควัตถุสีแดง (carotenoid) และสารโคแฟคเตอร์เช่น ยูบิควิโนน โคเอนไซม์คิวเท็น ไซโตไคนิน ซีเอติน ออกซิน กรดอินโดล -3- อะซิติก (Indole-3-acetic acid : IAA) กรดอินโดล -3-บิวทีริก (Indole-3-butyric acid : IBA) ซึ่งเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช


การขยายจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง
จากกลุ่มfc ธรรมะเกษตรอินทรีย์ https://www.facebook.com/groups/692374847475554/permalink/782959228417115/


การใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงกับนาข้าว

https://www.facebook.com/thaipsb?sk=notes
25 กุมภาพันธ์ 2014 เวลา 23:24 น.
การใช้กับนาข้าวสามารถใช้ได้ทุกระยะแต่โดยหลักๆจะแนะนำตามนี้
1.ระยะเตรียมดิน ใช้ 1 ลิตรต่อไร่ ผสมน้ำฉีดให้ทั่ว
2.ระยะแตกกอ    ใช้ 1 ลิตรต่อไร่ ผสมน้ำฉีดให้ทั่ว
3.ระยะตั้งท้อง    ใช้ 1 ลิตรต่อไร่ ผสมน้ำฉีดให้ทั่ว

ประโยชน์ที่ได้รับ
1.ช่วยให้ข้าวแตกรากได้ดี แตกรากได้มาก และรากมีสีขาว ดูดกินปุ๋ยได้ดีขึ้น
2.เพื่อออกซิเจนในดิน
3.ช่วยปลดปล่อยธาตุอาหารที่ค้างอยู่ในดิน ทำให้ดินไม่แข็ง
4.ช่วยให้ต้นข้าวแข็งแรงไม่ล้มง่าย
5.ช่วยลดแก๊สที่เป็นอันตรายต่อรากต้นข้าว
6.ช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียที่ไม่ดีโตขึ น

สรุป
เมื่อใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงแล้วจะช่วยให้รากทำงานได้ดีและมีประสิทธิภาพมากขึ้น กินอาหารได้มากขึ้น ทำให้ต้นแข็งแรง เพิ่มน้ำหนัก เมล็ดเต็ม ไม่เป็นโรค ใช้ปุ๋ยน้อยลง ส่วนจะมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆอีก เช่น น้ำ อากาศ ความรุนแรงของโรคพืชต่างๆ  






การใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสง อ.เชาว์วัช


วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

5เกษตรประณีต 1 ไร่ไม่ยากจน



เกษตรประณัีต 1 ไร่ไม่ยากจน
____________________________________

1. ต้องเข้าใจปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะบันได 9 ขั้น เศรษฐกิจพอเพียง

2. ต้องจิตที่มุ่งหมั่น  และต้องรู้จักความพอเพียง
___2.1  การปรับเปลี่ยนแนวคิด "ชีวิตเปลี่ยน เมื่อความคิดเปลี่ยนแปลง"
___2.2  ต้องมีความเพียร
___2.3  ต้องใฝ่เรียนรู้  หาความรู้จากแหล่งต่างๆ เรียนรู้  พัฒนางานอย่างต่อเนื่อง
___2.4  ต้องความปราณีต ในการปฏิบัติการงาน เอาใจใส่ทุกรายละเอียด

3. องค์ประกอบสำคัญ
___3.1 ออมน้ำ   จัดหาแหล่งน้ำเป็นของตนเอง ต้องเก็บน้ำใว้ให้ได้ ขุดบ่อ ขุดสระ
___3.2 ออมดิน   "จะต้องปรับปรุงและบำรุงรักษาดินให้มีสมบูรณ์อยู่เสมอ"
______3.2.1 ใช้จุลินทรีย์สร้างความให้พื้นที โดยเฉพาะอย่างยิ่งจุลินทรีย์จากหน่อกล้วย
______3.2.2 ใช้ปุ๋ยเพิ่มธาตุอาหาร    ได้แก่ ปุ๋ยพืชสด  ปุ๋ยคอก  ปุ๋ยหมักชีวภาพ
______3.2.3  ไม่ใช้ปุ่ยเคมี ยาฆ่าวัชพืชและแมลงเด็ดขาด จะทำให้ดินเสื่อมสภาพ  ทำลายชีวิตที่มีส่วนใหญ่ในการสร้างความสมบูรณ์ให้ดิน
______3.2.4  ไม่เปลือยดิน  ใช้พืชคลุมดิน หรือทำปฏิบัติการห่มดิน
___3.3 ออมต้นไม้
______3.3.1  ปลูกที่อย่างที่กิน  อุดรูรั่ว ที่จะต้องซื้อเค้าให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
______3.3.2  ใช้หลักการระดับชั้นเรือนยอดในการเพาะปลูก เพื่อให้ใช้พื้นทีให้เกิดประโยชน์สูงสุด
______3.3.3  ใช้แนวคิด "หลุมพอเพียง" เพื่อให้การเพาะปลูกประสบความสำเร็จมากที่สุด โดยมีพืชพี่เลี้ยงในหลุมที่สำคัญคือกล้วย เพราะกล้วยมีทั้งความชื้นและจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ สำหรับพืชที่ควรปลูกในหลุมพอเพียงประกอบด้วยพืชอะไรบ้าง ศึกษาจากรูปประกอบ
  

___3.4 ออมสัตว์  เพื่อ
______3.4.2 การบริโภคภายในครัวเรือน
______3.4.2 ผลิตปุ๋ยคอก สำหรับบำรุงพื้นที่
______3.4.3 เป็นแหล่งเงินออม